วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

chapter 13 - dangerous feeling ✈










- k a i s o o t h i r t e e n  -
d a n g e r o u s   f e e l i n g s



            คนตัวเล็กซุกตัวอยู่ภายใต้อ้อมแขนแกร่งเป็นภาพที่ชวนโดนมองได้เป็นอย่างดี ย่านหาลัยแม้เวลาจะเลยเที่ยงคืนแล้วแต่ทั่วทั้งย่านกลับยังคงครึกครื้นอยู่อาจจะยิ่งกว่าตอนกลางวันเสียด้วยซ้ำ แสงสีเสียงยามค่ำคืนเป็นเครื่องผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียนในยามเช้า ทุกเรื่องถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อสนทนาระหว่างการดื่ม ทั้งเรื่องของตัวเอง เรื่องของเพื่อน และเรื่องของคนอื่น ..


            เสียงเพลงดังอึกทึกออกมาภายนอกร้านข้างทาง เสียงพูดคุยดังกระหึ่มทั่วทั้งตรอกซอกซอยสำหรับนักศึกษานี้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติจนกระทั่ง .. ผู้ชายที่ชื่อคิมจงอินเดินผ่าน หากเดินผ่านเพียงปกติอาจจะมีพูดคุยหรือชักชวนให้ดื่มเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่สำหรับในเวลานี้ .. เวลาที่มีคยองซูอยู่ในอ้อมแขน


            เหล่าบรรดานักศึกษาที่นั่งเรียงรายอยู่บริเวณนั่งชิล ต่างพากันจ้องมองผู้มาใหม่กันอย่างไม่วางตา ยิ่งคนดังอย่างคิมจงอินและประธานรุ่นพี่สองประจำนิเทศฯอย่างโดคยองซูแล้วล้วนเป็นที่จับตามองทั้งสิ้น


            สายตาตื่นตระหนกปนไม่เข้าใจนับสิบถูกพุ่งความสนใจไปยังเจ้าตัวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย  แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นต่อไปในวันพรุ่งนี้ก็คือ .. ฉาวทั้งมหาลัยแน่ๆ


            ตามสายข่าวที่เล่าลือหลังจากที่ทั้งสองคนเลิกกันอย่างเป็นทางการแล้วก็คือ จงอินกลับไปเที่ยวเหมือนเดิมและดูเหมือนว่าจะมีแฟนใหม่เป็นดาวบัญชีปีหนึ่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทั้งสองเลิกกันได้ดีโดยกลับไปคงสถานะพี่น้องโดยไม่มีทางหวนคืนใหม่ได้ จงอินขี้เบื่อไม่มีทางกลับมาใช้ของซ้ำซึ่งใครๆ ก็รู้ ซึ่งต่อมาดูเหมือนว่าชานยอลเพื่อนในกลุ่มของจงอินกลับเป็นฝ่ายเริ่มออกตัวจีบคยองซู ความสัมพันธ์ซับซ้อนที่ดูลงเอยดีแม้จะดูแปลกๆ ชวนหมั่นไส้คยองซูไปสักหน่อย


            แต่วันนี้ดูเหมือนจะต้องแก้ข่าวกันอีกยาว ..


            อย่างน้อยก็ในเรื่องที่ว่าทั้งสองไม่มีทางหวนคืน


            รุ่นพี่จงอินกับคยองซูกลับมารีเทิร์นกันงั้นหรอ?


            แล้วรุ่นพี่ชานยอลล่ะ?


            หรือคยองซูจะจับปลาสองมือ?



            เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ ถูกส่งต่อกันไปอย่างรวดเร็วผ่านวงสนทนาผ่านตามรายร้านข้างทางและโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างรวดเร็ว ยิ่งกับเรื่องคนดังประจำมหาลัยแล้วยิ่งไม่มีพลาด แต่ที่มั่นใจได้ในตอนนี้ก็คือจงอินไม่มีเวลาเอาไปใส่ใจนัก รวมถึงคยองซูที่ในตอนนี้ความคิดในหัวตีกันจนแทบไม่ได้สังเกตสิ่งรอบข้างอะไรเลย



            รู้ตัวอีกทีก็ถึงห้องพักซะแล้ว .. โดยที่ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น


             “เปิดห้องสิน้ำเสียงแหบพร่าแปลกๆ ของจงอินกระซิบอยู่ข้างใบหูเล็กที่ขึ้นสีกว่าปกติ คยองซูที่ตื้อๆ เบลอๆ ดูว่าง่ายปกติควานหาคีย์การ์ดมาเสียบเปิดประตูอย่างเผลอไผล 

           
            น้ำเสียงของจงอินแบบนี้คยองซูไม่ชินมันเอาซะเลย .. รู้สึกเบาหวิวแปลกๆ เหมือนอยากจะลืมโลกแล้วย้อนเวลากลับไปในโลกที่มีแค่เขากับจงอินเพียงสองคน ไม่มีผู้หญิงคนอื่นมาคั่นกลาง แทนที่ของเขาอย่างเช่นในตอนนี้ ..


            นี่เขากำลังทำหน้าที่เป็นชู้แฟนเก่าตัวเองอย่างนั้นหรอคนตัวเล็กเหยียดยิ้มอย่างสมเพชตัวเองอยู่ในใจ


            นึกเกลียดความคิดด้านลบของตัวเอง แต่จะทำอย่างไรได้ ทุกคนย่อมมีด้านไม่ดีกันทั้งนั้น .. ร่างบางรู้ดีว่าจมูกสันโด่งที่กำลังสูดดมซอกคอเขาราวกับโหยหาเมื่อหลายนาทีก่อนนั้นจงอินใช้มันกับใคร ริมฝีปากที่กำลังไล่เลียผิวเนียนของเขา .. เมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อนมันถูกประทับอยู่บนตัวใคร 




            แต่รู้ไปมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่ดี จงอินไม่ใช่ของเขาแล้ว ยิ่งทำอย่างนี้ลับหลังหญิงสาวคนนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด ปากนี้สมควรจะเป็นของเธอไม่ใช่ของเขา .. สำนึกดีชั่ววูบมันทำให้คยองซูเผลอออกแรงดิ้นหนีให้หลุดจากพันธนาการครู่หนึ่ง ก่อนจะถูกจงอินตรึงด้วยแขนแข็งแรง


            “ไม่ดื้อสิครับตัวเล็ก” คำพูดอันอ่อนโยนส่งผลให้มือเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังทุบตีอกแกร่งพยายามผลักออกให้ห่างแต่ร่างสูงไม่ยอมถดถอยหนี ริมฝีปากร้อนเข้าฉวยกลีบปากบางรูปหัวใจที่กำลังสั่นระเรื่อไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่หวนกลับมาก่อนจะเลื่อนไปยังอวัยวะส่วนถัดมา


            ปลายลิ้นเปียกชื้นไล้เลียบริเวณซอกคอหอมก่อนริมฝีปากหนาจะดูดดึงไปตามใบหูขบเม้มเบาๆอย่างรักใคร่ จุดอ่อนของคยองซูที่จงอินรู้จักดี


            “อื้อ” มือเล็กที่ทุบตีอีกฝ่ายกลับเปลี่ยนกลายเป็นคล้องคอช้าๆ ถ่านไฟเก่ายังไงซะมันย่อมจุดติดกว่าเชื้อเพลิงใหม่อยู่แล้ว ยิ่งกับไฟที่รู้จักร่างกายเขาดีซะยิ่งกว่าตัวเองที่ชื่อจงอินด้วยแล้ว


            เป็นคยองซูนั่นแหล่ะที่พ่ายแพ้


            เมื่อเห็นว่าร่างเล็กเริ่มคล้อยตาม จงอินก็ดันแผ่นหลังแคบลงแนบสัมผัสกับเตียงโดยมีตัวเองทาบทับซ้ำลงไป ประกบปากซ้ำก่อนจะได้ยินถ้อยคำผลักไส ลิ้นร้อนเข้าช่วงชิงความหวานจากโพรงปากอย่างแสนโหยหา


            มือสากเริ่มลูบไล้ไปภายใต้ผ้าแม้ริมฝีปากปากจะยังไม่ถอดถอนออกจากกัน มือขวาปลดกระดุมเสื้ออย่างชำนาญจนเผยผิวขาวของคนใต้ร่าง ในที่สุดริมฝีปากหนาก็ละออกมาก่อนจะซุกไซร้ซอกคออีกครั้ง ดูดดึงขบเม้มจนเกิดรอยสีกุหลาบอยู่หลายจุดยิ่งผิวขาวๆ ยิ่งเห็นชัด อารมณ์ดิบทำให้เขากระชากเสื้อตัวหนาของคยองซูทิ้งอย่างไม่ไยดี ไล้ริมฝีปากมาดูดดึงเม็ดตุ่มไตที่ชูชันรับอากาศหนาวๆ และอารมณ์กระสันที่จงอินเป็นคนสร้าง



            “อื้อ..” จงอินยังคงทุ่มความสนใจไปยังแผ่นอกคยองซู ไล่เลียฝั่งซ้ายอย่างเชี่ยวชาญโดยที่ตุ่มไตฝั่งขวาก็ไม่มีการน้อยหน้าแต่อย่างใดเพราะมีนิ้วมือซุกซนคอยปรนเปรออยู่ไม่ห่างก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะเลื่อนลงไปยังแผ่นหน้าท้องแบนราบ กวาดเรียวลิ้นไปตามหลุมสะดือสะอาด จนคนตัวเล็กเกร็งน่าท้องสะดุ้งเฮือกด้วยความเสียววูบ


            “อื้ม มัน .. มะไม่..ดีนะ อึก..” คยองซูที่กัดฟัน บอกปัดไปในเฮือกสุดท้ายเมื่อนึกถึงใบหน้าหญิงสาวแฟนตัวจริงของอีกฝ่ายแต่ร่างสูงทำเป็นหูทวนลมไปซะอย่างนั้น จงอินนึกสนุกกับจิตใต้สำนึกของคยองซูนัก เขาจะคอยดูว่าทำอย่างนี้แล้วปากเล็กนี่ยังจะร้องห้ามอยู่มั้ย


             คิดได้ดังนั้นมือหนาก็ปลดกางเกงของคยองซูออกอย่างง่ายดาย ลูบไปตามแนวสันของกระดูกหลังพร้อมทั้งขย้ำก้อนเนื้อกลมเต่งบริเวณบั้นท้ายอย่างหมั่นเขี้ยว บีบครึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะย้ายมาทางด้านหน้า คว้าหมับเข้ากับแก่นกายเล็กที่จับได้ถนัดมือกอบกุมไว้ก่อนจะรูดจากช้าไปเร็ว


            ดวงหน้าคมมีรอยยิ้มพึงพอใจอยู่ตรงมุมปาก


            เปลือกตาบางปิดลงยอมรับสัมผัสจากจงอินแต่โดยดี .. คยองซูอ้อนวอนขอโทษโดฮีอยู่ในใจ เขาไม่รู้หรอกว่าจงอินโผล่มายังสวนสาธารณะได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ คงไม่ได้ไปส่งหญิงสาวกลับแน่ๆ อาจจะบอกให้ขึ้นแท็กซี่กลับไปเองหรือบอกให้รออยู่ก่อนร่างบางก็ไม่อาจรู้ได้จริงๆ 



            เขารู้ตัวเองดีตั้งแต่คืนนั้นแล้วว่าคงต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จงอินเขาถึงได้พยายามหนีหลบหน้าหลบตาอยู่ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา หากปล่อยให้จงอินกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้งฝ่ายที่จะต้องเสียเปรียบเสียทั้งตัวเสียทั้งใจก็คงไม่พ้นตัวเอง หากแต่สุดท้ายแล้วจงอินก็เป็นฝ่ายชนะ คนอย่างโดคยองซูหนีไม่พ้น จงอินจะได้ในสิ่งที่ต้องการและรอการทิ้งอีกครั้ง


            คยองซูไม่รู้หรอกว่าคำว่าเริ่มต้นกันใหม่’ ของจงอินมันหมายความว่าอย่างไรและไม่อยากตั้งความหวังให้ตัวเองเสียใจเล่น การไม่พูดไม่ได้หมายความว่าเขาจะโง่ แต่นอกจากรับสภาพเพราะคำหวานหูเพียงชั่วขณะแล้ว คนอย่างคยองซูเองก็ทำอะไรไม่ได้อีกเช่นกัน 


            ร่างเล็กยอมหมดแล้วทุกสิ่งในค่ำคืนนี้ ความอ่อนแอที่ได้รับการปลอบประโลมเคลือบยาพิษของจงอินมันเหมือนดั่งเชื้อไฟ เผาไหม้ความรู้ผิดแทบหมดสิ้น หากสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อจากนี้มันจะทำให้จงอินเอาตำแหน่งแฟนคืนมาจากโดฮี แม้จะไม่ได้คืนให้เขา แต่เพียงแค่ไม่ต้องตกเป็นคนอื่นคนตัวเล็กก็ยอม ..


            ความรู้สึกการเป็นคนพิเศษของจงอินคยองซูไม่พร้อมจะแบ่งหรือยกมันให้ใครได้ต่อ จงอินพูดเองว่าจะจัดการทุกอย่างได้ หากเขาจะแกล้งทำเป็นปิดหูปิดตาไม่รับรู้ลืมทุกสิ่งไปแล้วกลายเป็นความผิดบาป คยองซูเองก็พร้อมยอมรับอย่างเต็มใจ


            “อ๊ะ..อ๊า” เมื่อสวรรค์กำลังจะเปิดคยองซูกำลังจะไต่ถึง แต่แล้วจู่ๆ มันกลับหยุดชะงักลง ดวงตากลมโตที่หลับแน่นลืมตาขึ้นมาดูช้าๆ ก่อนพบว่าอีกฝ่ายผละตัวออกไปจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองอยู่นั่นเอง เพียงไม่นานจงอินก็กลับมาได้เนื้อตัวที่เปลือยเปล่า ซิกแพ็คในแบบผู้ชายออกกำลังกายเรียกใบหน้าคยองซูให้แดงขึ้นจากที่แดงอยู่ได้เป็นอย่างดี ร่างกายที่เขาแสนคิดถึง ..



            “มองต่อสิ” คำพูดเชิงล้อเลียนถูกส่งออกมาจากร่างสูง เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนจับได้คยองซูจึงรีบหลุบสายตาหนีหลบตา


            “..” คยองซูไม่ตอบโต้อะไรหากแต่ทั่วทั้งร่างกายขาวกลับแดงจัดขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า


            “หึ” จงอินส่งเสียงทิ้งท้ายเท่านั้นก่อนจะกลับมาคว้าแกนกายเล็กที่ตอนนี้ชี้โด่ตามแรงอารมณ์จากการรูดดึงของเขาเมื่อครู่มารูดรั้งอีกครั้ง


          “อ๊า อ๊า ไม่ไหวแล้ว” ขยับมือถี่ๆ อยู่อีกสักพักจนในที่สุดคยองซูก็ปลดปล่อยน้ำคาวออกมาเต็มมือหนา


            จงอินเลือกที่จะไม่ใช้นิ้วเป็นตัวเบิกทางอย่างเคย เขาอยากเข้าไปในตัวคยองซูแบบนี้จึงเอี้ยวตัวไปหยิบขวดวาสลีนข้างหัวเตียงมายื่นให้ร่างเล็ก


            “ทาให้หน่อย” คยองซูที่เพิ่งเสร็จสมอารมณ์หมายเบิกตาโตขึ้นเงยสบเข้ากับจงอินราวกับถามย้ำว่าเอาจริงหรอเมื่อสบเข้ากับแววตาที่ไม่มีการล้อเล่นปนอยู่ คยองซูจึงจำใจรับขวดมาบีบครีมอย่างไม่ไม่มีทางเลือกละเลงครีมไปทั่วทั้งมือก่อนจะจับเข้าที่แก่นกายที่กำลังพองโตผงาดกล้าอยู่ตรงหน้าพร้อมทั้งลูบไล้ไปทั่วอย่างระมัดระวัง


            "อ่าห์ คยองซู ..ขยับมือเร็วหน่อยสิ ซี้ด" หากใครจะตราหน้าว่าเขาโรคจิต จงอินคงต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ เขาชอบมือนิ่มๆ ของคยองซูอย่างถึงที่สุด ร่างเล็กทำตามอย่างว่าง่ายเขารู้ดีว่าจงอินชอบให้ทำอย่างนี้ที่สุด อารมณ์ความต้องการมันแทรกซ้อน แทนที่จิตใต้สำนึกไปหมดแล้ว 


            “พอก่อน จะเอาแล้วนะ” จงอินที่ตอนนี้ลูกชายพรั่งพร้อมไปด้วยสารหล่อลื่นฉุกเฉินอย่างวาสลีนดันร่างบางลงบนเตียงอีกครั้ง จับขาทั้งสองข้างแยกกว้างออกจนเห็นช่องทางสีหวานเอ่ยด้วยคำพูดหยาบโลน จนคยองซูที่นอนอยู่ต้องหันมาค้อนให้


            “อ๊ะ สะ..เสียว” มือหนาจับส่วนปลายของความใหญ่โตถูไถอยูตรงทางเข้าอย่างหยอกล้อ จนคนใต้ร่างต้องซี๊ดปากเกร็งส่วนภายในเรียกร้องโดยไม่รู้ตัว


            “อ่าห์” จงอินยังคงสนุกกับการกลั่นแกล้งคยองซูแม้ตัวเองจะทรมาน


            “จะเข้าก็เข้าสักทีเถอะ” จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว คนตัวเล็กกัดฟันพูดประโยคร้องขออันน่าอายออกมา จงอินชอบแกล้งโดยเฉพาะในเวลานี้ เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง

            ความใหญ่โตแทรกลงใจกลางแคบอย่างเต็มรัก และเพราะไม่ได้เบิกทางก่อนความเจ็บจึงแล่นเข้ามาแต่ก็ไม่ได้มากมายนักเหตุเพราะความเปียกชื้นที่มีอยู่ก่อน แก่นกายใหญ่ค่อยๆ ถูกกลืนกินช้าๆ ความคับแน่นภายในทำเอาคนทั้งคู่ต้องร้องครางออกมาด้วยแรงอารมณ์แม้จะยังไม่ได้ขยับมากเท่าไหร่นัก


            "อ๊ะ อ๊า ขยับอีกนิด" เล็บทั้งสองข้างจิกเข้ากับไหล่หนาอย่างเคย จงอินค่อยๆ เติมเต็มคยองซูทีละช้าๆ 


            “ใจเย็นสิคนดี” จงอินออกแรงสะโพกมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคยองซูเริ่มปรับตัวได้แล้วจึงเริ่มใส่ความแรงมากขึ้น แรงขยับถาโถมที่มากเพิ่มเป็นเท่าตัวส่งผลให้ทั่วทั้งร่างกระสันวาบไปหมดจนเรียวขาเล็กจำต้องอ้ากว้างตอบรับแรงกระแทกให้เต็มที่


            ริมฝีปากร้อนยังคงซุกซนไล้ดูดสร้างรอยตามลำคอเล็กอย่างไม่หยุดหย่อน สะโพกแกร่งก็ยังคงกระแทกเรียกเสียงครางกระเส่าให้หลุดครางออกมาได้อย่างแรงดีไม่มีตก


            “โอ๊ว อึก อ๊ะ อีกนิด..” คยองซูร้องครวญครางไม่เป็นภาษาอย่างน่าเอ็นดูนักในความคิดของคนคุมเกมอย่างจงอิน


            “ฮ๊า อึก วะ..วันนี้..จงอินปะ..เป็นของเรา” จงอินจัดให้ตามความประสงค์ของคยองซูด้วยการเพิ่มแรงถี่ๆ จนร่างเล็กทั้งร่างสั่นพร่าไปหมดด้วยความกระสั่น ความคิดในใจทำให้เผลอพลั้งหลุดปากพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว


            “เป็นของฉันหรอ” ร่างสูงถามซ้ำในขณะสะโพกกระแทกย้ำไปยังจุดกระสันคยองซูไม่หยุด


            “อ๊ะ อื๊ม.. ใช่ อื้อ”


            “เป็นของฉันก็ต้องครอบครองฉัน”


            “ยะ..ยังไง” คยองซูที่ในขณะนี้ตัวแดงสีหน้าบิดเกลียวไปด้วยความเสียวซ่าน ลืมความยางอายที่ควรมีไปหมดสิ้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป


            “ขึ้นให้หน่อย” ว่าเพียงเท่านั้นก็จัดการถอนแก่นกายออกมาจนร่างบางรู้สึกวูบโหวงไปไปชั่วครู่ ด้วยอารมณ์ค้างเติ่งที่ไม่สามารถหยุดได้คยองซูจำใจนั่งขึ้นยองๆ คร่อมอีกฝ่ายกลางลำตัว นึกเจ็บใจตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายแพ้อยู่เสมอ


            “อ๊า อื๊อ” เพียงแค่กดกายลงเพียงเล็กน้อย เสียงเล็กที่แหบพร่าก็ร้องออกมาดังลั่น เขาไม่เคยชินกับการออนท็อปให้จงอินสักที ไม่ว่าจะตอนนี้หรือที่ผ่านมา


            “อ่าห์ จับมันแบบนั้น ค่อยๆ ใส่ลงไปแบบเมื่อก่อน ลึกๆ” จงอินครางออกมาอย่างสุขสมกับสิ่งที่ร่างเล็กกำลังกระทำ คยองซูเองที่รู้สึกได้ว่าแก่นกายอีกฝ่ายเข้ามาลึกว่าปกติถึงกับเข่าสั่นทรงตัวไม่อยู่นั่งทับจะมิดลำตัวกดสะโพกลงไปช้าๆ อย่างรู้จังหวะ ประสานนิ้วมือทั้งห้าเข้ากับนิ้วมือของอีกฝ่ายไว้


            “โอ๊ยจงอิน มะ..มันเสียวไปหมด อึก..อ๊า”


            “ลึกๆ หน่อยตัวเล็ก .. อืม” เสียงแหบพร่าตอบสนองรับด้วยแรงปรารถนาจากกามารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงสุด ร่างเล็กปรับระดับความเร็วในการขยับขึ้นทันทีที่ปรับตัวได้

            จนในที่สุดร่างสูงก็อดทนไม่ไหว ลุกขึ้นนั่งทั้งๆ ที่สองส่วนของคนทั้งคู่ยังประสานกันอยู่ มือหนาจับเอวบางของคนที่เป็นฝ่ายทำเกมให้หยุดลงก่อนก่อนจะย้ายไปเป็นฝ่ายสวนกายกระแทกแทน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นโดยไร้ซึ่งความสนใจ


            “ละ..ลึกไปแล้ว..จงอิน” คยองซูเอ่ยบอกเสียงสั่น ใบหน้าซุกลงกับซอกคออีกฝ่ายเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มกาย


            “พร้อมกันนะ” ริมฝีปากอุ่นประทับตามซอกคอเล็กอีกครั้งแล้วผลักร่างเล็กให้นอนราบลงกับเตียงกระแทกด้วยแรงทั้งหมดที่มีก่อนจะคำรามเสียงสุดท้าย


            “อ๊ะ ไม่ไหว ..จะ..จะถึงแล้ว อ๊าา” น้ำคาวอุ่นถูกฉีดเข้าช่องทางรักของคยองซูอย่างเต็มแรง ไม่มีถุงยาง ไม่มีเครื่องป้องกันอะไร เพราะไม่มีใครได้กลับมาอะไรแบบนี้กันอีกครั้งภายในของคยองซูยังคงตอดขมิบเพื่อคายสิ่งแปลกปลอมออกมา จงอินกระแทกกระทันอีกสองสามทีจึงถอนแก่นกายออกมา


            หลังที่ปลดปล่อยได้ครู่หนึ่งจงอินก็จัดที่นอนทำความสะอาดเบื้องต้นเรียบร้อย เขาเหนื่อยเกินกว่าจะไปเข้าห้องน้ำในเวลานี้ อีกอย่างมันอาจจะไม่จบเพียงแค่นี้ก็ได้ขอนอนเอาแรงสักครู่ก่อน .. ก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบข้างหูคยองซู


             “ฉันไม่ได้ทำแค่เพราะอยากหรอกนะ .. ตัวเล็ก” พูดเบาๆ พลางจูบขมับล้มตัวนอนเคียงข้างคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้



           

TALK
คำบางคำมันเรทไปเปล่าอ่ะ 5555555555 เราขอโทษ T_T
พยายามจะใส่ความรู้สึกของคยองซูให้สื่อออกมาได้มากที่สุด แต่เหมือนยังไม่พอไงไม่รู้ 5555
ตอนนี้เป็นตอนที่เขียนยาวนานมากจริงๆ ใช้นานแบบฟุตๆ ตั้งความหวังกับมันไว้มาก
ไม่รู้ว่าทุกคนจะพอใจจะชอบมันกันมั้ย แต่เราเขียนเต็มที่แล้วจริงๆ Y_Y
ยังไงก็ฝากคอมเม้นต์+ติดแท็ก ด้วยนะคะ <3
           

           


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น